คุณเคยเห็นภาพศาลาริมน้ำที่หลังคาทำด้วยหญ้าคามั้ยส่วนตัวศาลาก็ทำจากไม้ไผ่ อายุอานามก็หลายสิบปี แต่ถ้าคุณยืนอยู่ที่ศาลาริมน้ำหลังเก่านี้แล้วให้ฉากหลังเป็นเวิ้งแม่น้ำพร้อมด้วยพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน หรือคุณจะยืนอยู่บนแพไม้ไผ่ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกที่หมดความกังวลใดๆ นี่หละที่เค้าเรียกกันว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”
“ปางอุ๋ง” เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริที่จัดพื้นที่ให้ราษฎรที่อยู่ติดชายแดนมีพื้นที่ทำกินไม่ต้องค้าสิ่งผิดกฏหมายอีกต่อไป การเดินทาง : ไปเส้นเชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน ระยะเวลารวมประมาณ 2-3 ชั่วโมงต้องกะเวลาดีๆ และเข้าเส้น แม่ฮ่องสอน – ปาย จากนั้นจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็จะถึง แนะนำว่าควรมาถึงทางขึ้นปางอุ๋งไม่เกิน 3-4 โมงเย็น ทางเข้าจะค่อนข้างน่ากลัวนิดๆเป็นถนนเส้นเล็กๆรถสวนกันได้แต่ก็ต้องเบี่ยงตัวหลบกันสุดฤทธิ์ ระหว่างทางก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเป็นจราจรให้ ทำให้ไม่ค่อยพบอุบัติเหตุสักเท่าไหร่ ที่เคยไปมาก็เจอครั้งหนึ่ง คือ รถ(ของคนอื่น) ตกไหล่ถนน เมื่อขับรถไปแล้วก็จะเจอด่านเจ้าหน้าที่ จากนั้นจะให้ไปจอดที่ลานดิน
ที่พัก : กรณีไม่ได้เตรียมตัวมาก็ไม่มีปัญหา เพราะเต้นท์มีบริการตลอดราคาหลักร้อย ส่วนถ้าต้องการห้องพัก หากไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็จะมีทั้งบ้านพักของชาวเขาเอง และยังมีบ้านพักของทางเจ้าหน้าที่เองด้วย ที่ไปพักมาราคาประมาณ 400 นิดๆ นอนได้ถึง 4 คน เตียง 1 เตียงที่เหลือก็ปูที่นอน นอนพื้นไป แต่หากเป็นช่วงเทศกาลต้องจองที่พักล่วงหน้านานหน่อยเหตุผลข้อเดียว เต็ม เรื่องอาหารการกินไปต้องกังวล มีร้านของชาวบ้านตั้งเรียงราย แล้วก็ยังมีร้านสวัสดิการด้วย ตอนเย็นๆก็ไม่ค่อยตื่นตาเท่าไหร่เพราะเราเหนื่อยเดินทางร้านก็ปิดไปเยอะ
เย็นๆ แนะนำให้ลงไปที่อ่างเก็บน้ำ ถ่ายรูปกับพระอาทิตย์ตกดิน ถ้ามีเวลามากกว่านั้นก็ให้นั่งแพไปเที่ยวในอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศดีที่สุด ช่วงเช้านี่แหละไฮไลท์ ให้ตื่นกันตั้งแต่ตี 5 อันนี้ขอร้อง แล้วให้รีบลงไปสันอ่างเก็บน้ำเตรียมตั้งกล้องกันเลย พระอาทิตย์ตอน 6 โมงเช้ามันเหมือนพระอาทิตย์ตกดินมาก ถ่ายภาพออกมานี่แยกกันไม่ออกเลยทีเดียว แล้วก็สวยแบบไม่รู้จะบรรยายยังไงได้เลย ทั้งหมอกตอนเช้าที่ปกคลุมพื้นน้ำ และแสงอาทิตย์อ่อนๆที่ส่องระเรื่อลงมาที่ผิวน้ำ ใส่โอเวอร์โค๊ด แต่งตัวให้ดูหนาวหน่อย โอ้ว!นี่มันเมืองนอกชัดๆ
จากนั้นเพราะแสงอาทิตย์เริ่มแรงแนะนำไปหันหลังกลับ อีกด้านจะเป็นเหมือนทุ่งนาไกลลิบ มีแนวป่าให้เห็นลางๆ ด้านนี้ก็จะเห็นหมอกปกคลุมทิวเขาเช่นกัน สวยไม่แพ้กัน
พอเริ่มแดดแรงให้เปลี่ยนไปเดินเล่นในหมู่บ้าน มันเผา ข้าวต้ม น้ำชา ขนมปังปิ้ง กาแฟร้อนๆ รอท่านอยู่ อ้อ!แล้วอย่าลืมไปส่งจดหมายถึงตัวเองด้วยหละ ว่าครั้งนึงเราเคยมาสัมผัส “ปางอุ๋ง”
เรียบเรียงข้อมูลโดย : paipaitour
ที่มาภาพ :
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น