ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ อากาศเย็นสบาย ลมเอื่อยๆ ก็ต้องหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องเย็นกว่าที่เป็นอยู่ ต้องหนาวกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้น เราเลือกแล้ว เราจะไป “ภูหินร่องกล้า” เพราะเท่าที่รู้มาที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 18-25 องศา คือ เย็นกว่าเปิดแอร์ที่บ้านอีก เกร์ลกรุ๊ปอย่างเราก็ไม่รอช้าที่จะสัมผัสอากาศหนาว งานนี้หนักหน่อย สาวกล้าทั้งหลายบอก ต้องกางเต้นท์นอนเท่านั้น ถึงจะได้ใจ เสียวแปร๊บซะเรา
กัดฟันสู้ เคยไปแม่ฮ่องสอน 1864 โค้งมาแล้ว นี่แค่ 111 โค้ง สู้ตาย รอบนี้เราเลือกไปทางสระบุรี ลพบุรี แล้วก็เอาเพชรบูรณ์ ยึดทางหลวงหมายเลข 21 ไว้ แล้วต่อไปที่หล่มเก่า พอถึงหลักกิโลเมตรที่ 261 เราจะเห็นอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองซึ่งตรงนั้นเป็น 4 แยก ก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดพิษณุโลก พอถึง 4 แยกไฟแดงให้เราเลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 2372 ซึ่งมุ่งหน้าไป ภูทับเบิก และ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซักหลักกิโลเมตรที่ 4 ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2331 และอีกไม่นาน เราก็จะเริ่มนับโค้งกันแล้ว นับไปสักพักก็จะถึง 3 แยกมีป้ายไม้ใหญ่ๆบอก อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ก็ไปตามป้าย ขับไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ก็ให้เลี้ยงซ้ายแล้วก็ตรงไปอีกนิดก็จะถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สิริรวม 5 ชั่วโมงเป๊ะ เมื่อยสุดใจจริงๆ
แต่ก่อนทีเราจะถึงที่หมายเราต้องผ่านด่านทับเบิกก่อนที่จะเจอทางเข้าอุทยานพร้อมชำระค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานทั้งรถและคน ที่นี่ก็ขับระวังให้มากกว่าเดิมเพราะว่าถนนค่อนข้างโหดร้ายพอควร ช้าเข้าไว้เป็นดี ยังงัยก็ถึงเหมือนกัน ที่นี่ก็มาที่จุดกางเต้นท์กัน ก่อนหน้าเราก็มีอยู่ประมาณนึงไม่เยอะมาก ดีเลยหาที่ทางได้ง่าย เอาแบบใกล้ห้องน้ำหน่อย หลังจากอาบน้ำ ตั้งเต้นท์เสร็จ ก็นั่งทำอะไรกินกันเล็กๆ และพอแล้วสำหรับวันนี้ พรุ่งนี้ตื่นเช้าสำรวจพื้นที่กัน
เช้านี้เราตั้งใจศึกษาธรรมชาติ ซึ่งไปง่ายมาก เตรียมอย่างเดียว แรง เราเริ่มเดินกันแต่เช้าตรู่ ไม่นานก็ถึงที่แรก
ลานหินปุ่ม – โฮ้! คือว่าแปลกตามาก หินขึ้นเป็นปุ่มๆเต็มไปหมด ซึ่งที่เจ้าหน้าที่บอกคือ กว่าหลายล้านปีก่อนบริเวณลานนี้เคยอยู่ใต้ทะเลลึกมาก่อน คือว่า ที่เรายืนอยู่มันสูงมาก เป็นริมหน้าผา มองลงไปเห็นบ้านคน พร้อมทั้งทางรถด้วย แล้วคือ เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อน มหัศจรรย์มากมาย ยืนตรงนี้ลมเย็นถึงหนาวเลยหละ ดีว่าวันนี้ท้องฟ้าเปิดเลยได้เห็นวิวเมืองสวยมาก จากนั้นเดินต่อมาอีกนิดหน่อยก็จะถึง
ผาชูธง – ลักษณะคือ เป็นหน้าผาสูงมาก ถ้ามองก่อนขึ้นไปก็จะเห็นเป็นก้อนหินใหญ่ๆตั้งตรงๆ อยู่ริมหน้าผา แล้วมีธงชาติไทยปักอยู่บนยอดหน้าผา ขึ้นไปข้างบนก็จะเห็นวิวด้านล่างสวยมาก ประจวบเหมาะกับมีหมอกมาบังเล็กๆ โฮ้! คือสวยได้ใจอีก จากนั้นเราก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม ก็จะเจอกับ
ซันแครก – หน้าตาละม้ายลานหินปุ่มแต่ไม่ได้โผล่เป็นปุ่มแต่เป็นเหมือนหินเป็นก้อนๆเรียงตัวติดกันเป็นชั้นๆ
ซึ่งหินบริเวณภูหินร่องกล้านี้ดูแปลกตาก็อาจมาจากการยกตัวของเปลือกโลก อ้อ ยังมีอีกที่ไปมาแต่ไม่กล้าเดินเข้าไป คือ ลานหินแตก คือ รอยแตกแยกของหินเป็นร่องๆ ซึ่งลึกมาก บางร่องข้ามไม่ได้เลย ดูแล้วจะเหมือน แกรนแคนยอน งัยไม่รู้ เลยกลัว ไม่กล้าเข้าไป
ซึ่งที่ยังมีอีกก็จะเป็นลานอเนกประสงค์ ที่หลบภัยทางอากาศ สำนักอำนาจรัฐ สุสานนักรบ คืออยากแนะนำให้เพื่อนๆได้เดินสำรวจกัน เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นสถานที่เตือนใจคนไทยอยู่ตลอดไป และที่แน่ๆคือ ธรรมชาติที่นี่สวยจับใจมาก มาแล้วรับรองประทับใจในบรรยากาศจนต้องบันทึกไว้เลยว่า ต้องมาอีกครั้งแน่นอน
เรียบเรียงข้อมูลโดย : paipaitour
ที่มาภาพ :
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น