เที่ยวรอบนี้หลายความคิดเห็นมาก อยากไปเที่ยวเหนือ อยากไปเที่ยวสวนดอกไม้ อยากไปไหว้พระธาตุ อยากไปที่ที่เงียบๆคนไม่เยอะ มากันซะขนาดนี้แล้วจะจัดทริปยังงัยไหว ว่าแล้วก็เปิดเลยอากู๋ (กูเกิ้ล) ไปไหนดี และในที่สุดเราก็พบจุดหมายปลายทาง เราจะขึ้นดอยกันอีกแล้ว เราจะไป “พระตำหนักดอยตุง” มีทุกอย่างที่พวกเธอๆต้องการ สวนดอกไม้ พระตำหนักที่งดงาม พร้อมพระธาตุดอยตุง แถมไม่พอทางไปก็สงบเงียบ ว่าแล้วก็ลุยกันเลย
รอบนี้เราไปกันตอนหน้าฝน แต่ก็ไม่ฝนจริงซะที ไม่ค่อยเห็นฝนเลย ขับรถสะดวกเราก็มาเส้นลำปาง – เชียงราย ผ่านวัดร่องขุ่น จากนั้นก็ตรงไปจากแผนที่บอกว่าให้ไปเส้น 1208 ตรงไปตำบลห้วยไคร้ แล้วก็ต่อยังตำบลแม่ฟ้าหลวง อีกไม่นานก็ถึงพระตำหนักดอยตุง ทางเรียกได้มาดีเลยทีเดียว แต่ที่ต้องระวังคือ โค้งเยอะมาก ก็ทางขึ้นเข้าก็ต้องโค้งเยอะเป็นธรรมดา
พอถึงพระตำหนัก พยาธิในท้องเริ่มป่วน เติมพลังกันด้วยข้าวซอนแสนอร่อย แล้วก็เดินดูของเล็กน้อยส่วนใหญ่ก็จะขายชา แล้วก็เสื้อผ้าทอชาวดอย แล้วก็ซื้อเกาลัดกินด้วยไม่แพงแถมอร่อย ซึ่งตรงนี้ เรียกว่า “กาดดอยตุง”
อิ่มกันแล้วก็มาที่ประตูทางเข้า ซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม เนื่องจากเรามาถึงกันเช้าพอสมควร ยังไม่ 7 โมงเลย เราเลยซื้อตั๋วชมพระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง อันนี้แนะนำหากมีเวลาไม่มากก็เลือกซื้อชมอย่างใดอย่างหนึ่งเพราะว่าเป็นพื้นที่กว้างขวางหากเวลาน้อยจะเดินกันไม่คุ้ม เรามีเวลากันตั้งแต่ หกโมงครึ่ง ไปจนถึง ห้าโมงเย็น แบบว่าเดินกันให้คุ้ม แล้วถ้าใครคิดจะมาที่นี้ต้องแต่งตัวสุภาพ ถ้าไม่สุภาพก็จะมีเจ้าหน้าที่แจ้งและเตรียมชุดที่เหมาะสมไว้ให้
ตุง เป็นภาษาเหนือหมายถึง ธง แต่เป็นธงยาวๆ หรือเค้าจะเรียกว่าธงตะขาม ส่วนใหญ่บนตุงก็จะมีภาพปีนักษัตรอยู่ ระหว่างทางไปพระตำหนักก็จะผ่านดอกไม้ สวนสวย คือ กว่าจะเดินถึงพระตำหนัก ถ้าเป็นกล้องฟิลม์คงต้องซื้อไว้สัก 2 โหล แดดออกแต่อากาศไม่ร้อนเลย ออกจะชื้นๆเย็นๆ เห็นต้นสนเยอะเลย และแล้วก็เดินมาถึงพระตำหนัก
สัญลักษณ์บ้านเมืองเหนือต้องมี กาแล อยู่ที่จั่วหน้าบ้าน ซึ่งด้านหน้าพระตำหนักก็มีกาแลอยู่ที่จั่วหลังคา และมีการตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี และต้นไม้ใหญ่ทำให้ร่มรื่นและเย็นดีทีเดียว พี่ไกด์เค้าบอกว่า พระตำหนักดอยตุงเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมล้านนา กับ ชาเล่ย์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และที่ทึ่งมากคือ ไม้ที่ตกแต่งข้างในเป็นไม้ที่ใส่สินค้าจากท่าเรือคลองเตย ว้าว!เลย พอเดินออกมาจากระเบียงก็เห็นห้องบรรทมของสมเด็จย่า แล้วก็เห็นผ้าปักผืนสุดท้ายที่พระองค์ปักไม่เสร็จ อ้อ!ลืมบอกไป ภายในพระตำหนักห้ามถ่ายภาพ แค่เดินชมพระตำหนักก็เรียกได้ว่า เหนื่อยแล้วเพราะกว้างมากแล้วก็สวยคือ เดินจนเพลินเอาเป็นว่า ปาเข้าไป 11 โมงกว่าเลยกว่าจะออกจากพระตำหนัก
หากใครจะมาเที่ยว ขอย้ำ ให้กะเวลากันดีๆ รักษาเวลาด้วยเพราะว่า ที่นี่สวย งดงาม จนคนเดินเพลิน จนไม่ดูเวลากันเลยทีเดียว
เรียบเรียงข้อมูลโดย : paipaitour
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น